Header Ads

เทคนิคการนับเวลาของแท่งเทียน ใน Time Frame ต่างๆ รวมไปถึงประเภทของการเทรดที่เหมาะสมกับเรา

 

 

1.แท่งเทียนสีแดงจะเป็นปริมาณของฝั่ง SELL หรือฝั่งขาย

 โดยจะนับจากปลายที่อยู่ด้านบนของแท่งเทียน - ลงไปด้านล่าง

 

การนับเวลาแท่งเทียน เทรด Forex และ ทองคำ

2.แท่งเทียนสีเขียวจะเป็นปริมาณของฝั่ง BUY หรือฝั่งซื้อ

โดยจะนับจากฐานที่อยู่ด้านล่างของแท่งเทียน - ขึ้นไปด้านบน 

การนับเวลาแท่งเทียน เทรด Forex และ ทองคำ

 

ยกตัวอย่าง แท่งเทียนฝั่ง SELL ใน Time Frame 5 นาที 1 แท่ง จะเท่ากับ มีแท่งเทียน 1 นาที อยู่ 5 แท่ง


ยกตัวอย่าง แท่งเทียนฝั่ง BUY ใน Time Frame 5 นาที 1 แท่ง จะเท่ากับ มีแท่งเทียน 1 นาที อยู่ 5 แท่ง


คราวนี้ เราจะมาลองเปรียบเทียบรูปแบบของแท่งเทียนในฝั่ง SELL 1 แท่ง กับฝั่ง BUY 1 แท่ง 

ใน Time Frame H4 ( 4 ชั่วโมง ) ที่มักเกิดเป็น Pattern รูปแบบต่างๆ ใน Time Frame M5 

( โดยแท่งเทียน 4 ชั่วโมง 1 แท่งจะเท่ากับมีแท่งเทียนใน Time Frame 5 นาที ทั้งหมด 48 แท่ง )

รูปแบบในฝั่ง BUY


รูปแบบในฝั่ง SELL





 
คราวนี้ เดี๋ยวเรามาดูตัวอย่างการดูแท่งเทียนในแต่ละ Time Frame ผ่านโปรแกรม Meta Trader 4 ( MT4 ) กันครับ 

Time Frame หมายถึงสถานะของกราฟ หรือการดูราคาในแต่ละช่วงเวลา ว่ากำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด


เช่น Time Frame M1 หมายถึงความสูง หรือความยาวจากบนลงล่าง ของแท่งเทียน 1 แท่ง จะใช้เวลา 1 นาที ก่อนขึ้นแท่งใหม่ เป็นต้น



 Time Frame M5 หมายถึงแท่งเทียน 1 แท่ง จะใช้เวลา 5 นาที ก่อนขึ้นแท่งใหม่

 

 

 
Time Frame M15 หมายถึงแท่งเทียน 1 แท่ง จะใช้เวลา 15 นาที ก่อนขึ้นแท่งใหม่
 


 

 Time Frame M30 หมายถึงแท่งเทียน 1 แท่ง จะใช้เวลา 30 นาที ก่อนขึ้นแท่งใหม่

 


 
 Time Frame H1 หมายถึงแท่งเทียน 1 แท่ง จะใช้เวลา 1 ชั่วโมง ก่อนขึ้นแท่งใหม่

 


  
Time Frame H4 หมายถึงแท่งเทียน 1 แท่ง จะใช้เวลา 4 ชั่วโมง ก่อนขึ้นแท่งใหม่

 


 
Time Frame D1 หมายถึงแท่งเทียน 1 แท่ง จะใช้เวลา 1 วัน ก่อนขึ้นแท่งใหม่
 


 

Time Frame W1 หมายถึงแท่งเทียน 1 แท่ง จะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ก่อนขึ้นแท่งใหม่
 


 

Time Frame MN หมายถึงแท่งเทียน 1 แท่ง จะใช้เวลา 1 เดือน ก่อนขึ้นแท่งใหม่
 



 

แต่เนื่องจากการซื้อขายในตลาด Forex. หลักๆ จะเน้นที่การเก็งกำไรระยะสั้น โดยสามารถแบ่งเป็นประเภทการเทรด ได้หลักๆ ดังนี้

1.รูปแบบการเทรดสั้น หรือภาษาอังกฤษเรียกว่าการเทรดแบบ Scalping เน้นการเทรดใน Time Frame 1 นาที ( M1 ) และ Time Frame 5 นาที ( M5 โดยจะใช้เวลาในการเทรดไม่เกิน 20 - 30 นาที ต่อวัน เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเฝ้าหน้าจอ ตอนที่เทรด. ข้อดีคือ ได้กำไรง่าย และรู้ผลไม่เกิน 30 นาที ไม่ต้องลงทุนเยอะ. ข้อเสียคือ หากขาดทุน จะขาดทุนไวเหมือนกัน ต้องเฝ้าหน้าจอตลอด ในช่วงที่เข้าออเดอร์ไปแล้ว


2.รูปแบบการเทรด แบบจบใน 1 วัน หรือแบบ Day Trade จะเป็นการเทรดใน Time Frame 15 นาที ( M15 ) และ Time Frame 1 ชั่วโมง ( H1 ). เน้นการปิดออเดอร์ภายใน 1 วัน ส่วนใหญ่จะปิดก่อน 23.00 น. สามารถใช้เทรดในช่วงที่ราคาเป็น Sideway ช่วงที่เป็นแนวรับแนวต้านค่อนข้างดี และไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเยอะ

3.การเทรดแบบ Swing Trade สามารถวางแผน และทำกำไรได้ง่าย แต่ใช้เวลานาน ประมาณ 1 - 2 วัน เนื่องจากเป็นการเทรดใน Time Frame 4 ชั่วโมง และ Time Frame 1 วัน ( D1 ). เหมาะกับคนที่ใช้โบรกเกอร์ที่ Free ค่า SWAP ในการเทดรแบบข้ามวัน. ข้อดีคือ คาดการณ์ได้ง่าย เทรดตามจัง Swing High และ Swing Low ของราคา และไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ไม่เครียดเหมือนการเทรดสั้น. ข้อเสียคือ ต้องมีเงินบัญชีเทรดเยอะพอสมควร เพราะเป็นการออเดอร์ยาว

 
4.Position Trade เป็นการเทรดใน Time Frame 1 สัปดาห์ ( W1 ) หรือ Time Frame MN ( 1 เดือน ) การเทรดแบบนี้ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากตลาด Forex เป็นตลาดที่เหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้น. และผู้เทรดต้องมีความอดทนถือออเดอร์นานพอสมควร สำหรับ Position Trade
 
เทคนิคการเรียงลำดับความแข็งแกร่งของ แนวรับ และแนวต้าน ที่ส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของราคา

 

ขับเคลื่อนโดย Blogger.