เทคนิคการใช้งาน Volume Profile Fixed Rang แบบทำตามได้ง่าย
ประโยชน์ของการใช้งาน Indicators Volume Profile / Fixed Range มีดังนี้
1.ใช้หาจุดที่มีการสะสมของราคา หรือสภาพคล่องของตลาดทองคำและ Forex ก่อนมีการเปลี่ยนแนวโน้ม หรือมีการเปลี่ยนเทรน
2.ใช้เพื่อแนวรับ Demand Zone / แนวต้าน Supply Zone ในแบบ Multi Time-Frame ได้แม่นยำมากขึ้น
3.ใช้เพื่อหาจอเข้าเทรด หรือเข้าออเดอร์ BUY หรือ SELL ในจุดที่นักเทรดมืออาชีพมักจะใช้งานกันบ่อยๆ
ซึ่งหากเราฝึกการใช้งาน Indicators Volume Profile Fixed Range บ่อยๆ จนชำนาญแล้ว จะทำให้เราสามารถอยู่ในตลาดนี้ได้แบบยั่งยืนแน่นอนครับ
1.ไปที่เว็บ Tradingview.com จากนั้นเปิด Chart ของ Forex , หุ้น , Crypto ที่เราต้องการวิเคราะห์ขึ้นมา
แล้วคลิกที่ปุ่ม Indicators
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
2.พิมพ์คำว่า volume profile ลงในช่องค้นหา แล้วเลือก Volume Profile / Fixed Range
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
3.เราจะได้หน้าตาการทำงานของ Indicators แบบในภาพ
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
4.ตรงนี้เราจะมองเห็นว่ามีเส้นสีแดง. ซึ่งเส้นนี้ จะบอกถึงโซนที่มีปริมาณการซื้อขายที่มากที่สุดของแต่ละ Time Frame
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
5.ยกตัวอย่างคู่ทองคำ ต่อสู้กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในคู่ XAUUSD ใน Time Frame 1 ชม. ( H1 )
ในช่วงวันที่ 30 พฤษภาคม 2565
เราจะเห็นว่ามีปริมาณการซื้อขายหรือ Volume ที่สูงที่สุดในโซนราคา 1900 - 1905
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
6.คราวนี้ เมื่อเราลองเปลี่ยน Time Frame จะสังเกตว่าตรง Volume Profile Fixed Range ก็จะมีการเปลี่ยนตาม Time Frame นั้นๆ ไปด้วย.
ยกตัวอย่าง ตอนนี้เป็น Time Frame 15 นาที ( M15 ) จะเห็นว่ามีการซื้อขายกันมากที่สุดในช่วงราคา 1885 - 1890
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
อีก 1 ตัวอย่าง เมื่อเราลองเปลี่ยนไปดูกราฟใน Time Frame 5 นาที ( M5 ) จะเห็นว่ามีปริมาณการซื้อขาย ของ Volume Profile Fixed Range ในโซนราคาที่ต่างกับ Time Frame M15
7.ซึ่งหากเราลองสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าช่วงที่มีการซื้อขาย ที่มี Volume เยอะๆ. ส่วนใหญ่กราฟมักจะอยู่ในรูปแบบของตลาด Side Way ซึ่งจะมีปริมาณการซื้อ-ขายค่อนข้างมาก
8.ซึ่งเทคนิคการเทรดด้วย Volume Profile Fixed Range แบบแรก เช่น หากเป็นฝั่ง BUY นักเทรดส่วนใหญ่มักจะรอให้ราคาทำการเบรคกรอบราคา ที่เกิด Sideway ขึ้นไปทำ High ที่สูงขึ้นกว่าเส้นสีแดง. จากนั้นเค้าจะรอให้ราคามีการย่อลงมา แล้วเข้า BUY ซึ่งจะทำให้เกิดความได้เปรียบตรงจุดนี้
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
9.ส่วนฝั่งเซล ( SELL ) เค้ามักจะรอให้ราคาเบรคทะลุกรอบ Side way ลงไปทำ Low ใหม่ก่อน. จากนั้นค่อยรอเข้าออเดอร์ตอนที่ราคามีการวิ่งกลับมาชนตรงเส้นสีแดงที่เกิดเป็น Volume Profile Fixed Range แบบตัวอย่างในภาพ
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
10.สำหรับการเทรดด้วย Volume Profile / Fixed Range แบบที่สอง.ที่นักเทรดจะใช้กันบ่อย นั่นก็คือการหา FTB ( First Time Back ) หรือแปลตรงตัว ก็คือ การกลับมาชนเส้นสีแดงของ Volume Profile ครั้งแรก หลังจากที่ราคามีการเบรคทะลุกรอบราคา.
ยกตัวอย่าง จะเป็นการวางแผนเทรดในฝั่ง Buy . สิ่งที่ผู้เล่นฝั่ง BUY มักจะทำบ่อยๆ นั่นก็คือ
เมื่อใดก็ตาม ที่ราคาได้มีการเบรคกรอบราคาช่วง Side way ขึ้นไป และได้สร้าง High ใหม่ ที่สูงกว่า High เดิมก่อนหน้า
เค้าจะรอให้ราคาย้อนกลับมาในโซนที่เป็น Side way เดิม ซึ่งปกติจะถือเป็น Demand Zone หรือแนวรับ
ที่มีความสำคัญ. จึงทำให้ผู้เล่นฝั่ง BUY มักจะรอเข้าออเดอร์กันเยอะในโซนดังกล่าว
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
11.คราวนี้ จะมีอีกแบบ คือราคาได้เบรคกรอบ Side way ที่เกิด Volume Profile / Fiixed Rang
ตัวอย่างนี้เป็นคู่ทองคำ XAUUSD ใน Time Frame H1.
ราคาได้เบรคทะลุลงไป แล้วมีแรงซื้อเข้ามาจนราคาได้ขึ้นไปสูงกว่าเส้นสีแดงของ Volume Profile
จากนั้นมีการเทขายกลับลงมาอีกรอบ
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
12.หากเจอเคสลักษณะนี้ เราจะต้องรอ และใจเย็น เพราะหัวใจหลักของการเทรด คือการรอให้เจอจังหวะที่เราคิดว่าได้เปรียบมากหรือจุดที่เราชำนาญมากที่สุดนั่นเอง.
โดยสำหรับนักเทรดที่เค้าต้องการเล่นในฝั่ง SELL
เค้าจะรอให้ราคามีการดีดกลับขึ้นชนที่บริเวณ Supply Zone หรือแนวต้าน แบบในภาพ
ซึ่งจะเป็นจุดที่มีคนรอ SELL กันเยอะ. ซึ่งจะทำให้ฝั่ง SELL ได้เปรียบในโซนดังกล่าว
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
13.แต่สำหรับคนที่ชอบเล่นในฝั่ง BUY เค้ามักจะรอเข้าออเดอร์ในโซนที่เป็นแนวรับ หรือ Demand Zone แบบในภาพ. ซึ่งเป็นจุดที่ค่อนข้างมีความได้เปรียบ
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
14.ตรงนี้ จะเป็นการเปรียบเทียบ Volume Profile / Fixed Rang ใน Time Frame H1 และ M15
เราจะเห็นว่า ตรง Demand Zone แนวรับของ Time Frame H1 เป็นช่วงที่เส้นสีแดง ใน Time Frame M15 พอดี. ซึ่งมีโอกาสที่ราคาจะดีดกลับขึ้นไป ตามหลักการของ FTB ( First Time Back )
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
15.แต่หากเป็นคนที่เค้าคิดว่าราคาน่าจะลงต่อ สิ่งที่เค้าจะรอให้เกิดขึ้น เพื่อหาจังหวะเล่นในฝั่ง SELL
นั่นก็คือ เค้าจะรอให้ราคาเบรคทะลุลงไปสร้างจุด Low ที่ต่ำกว่า Volume Profile Zone ก่อน เพื่อดูทิศทางของตลาด.จากค่อยรอให้ราคาเด้งกลับขึ้นไปทดสอบตรงวงกลมสีเขียว ซึ่งจะมีคนรอจังหวะเข้า SELL กันเยอะในโซนนี้.
ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นในฝั่ง SELL ค่อนข้างได้เปรียบมากยิิ่งขึ้น
การใช้งาน Volume Profile / Fixed Range |
สำหรับใครที่อยากลองเทรดแบบขำๆ หรืออยากรู้ว่าการใช้งานโปรแกรมซื้อขายเป็นยังไง. ก่อนเข้ามาในตลาดแบบจริงจัง. Admin อยากให้ทุกคนฝึกกับโปรแกรมทดลอง ซื้อขาย ผ่านบัญชีทดลองก่อน เพื่อให้เราเกิดความชำนาญ ประมาณ 1 - 2 เดือน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่ดีที่สุด
👉 https://trademaxthai.blogspot.com/2022/04/forex.html
Post a Comment